
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สภาพจิตใจบอบช้ำหนักกับศึกในระดับทีมชาติ หลังเขาสวมปลอกแขนกัปตัน ทีมชาติอียิปต์ พ่ายแพ้ให้กับ ทีมชาติเซเนกัล อีกครั้งซ้ำรอยเดิมจากทัวร์นาเมนต์ เจ้าแห่งทวีปแอฟริกา หรือรายการ แอฟริกา คัฟ ออฟ เนชันส์ ที่เพิ่งจบไปเมื่อต้นปี ซึ่งในครั้งนั้น ทีมชาติเซเนกัล สามารถคว้าแชมป์เอาชนะ ทีมชาติอียิปต์ ไปได้จากการยิงจุดโทษเช่นเดียวกันกับในศึก ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนทวีปแอฟริกา นัดที่ 2 ที่เพิ่งแข่งขันจบไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดย ทีมชาติเซเนกัล เปิดบ้านนำทีมโดย ซาดิโอ มาเน่ เพื่อนร่วม ทีมลิเวอร์พูล ของ ซาลาห์ สามารถเอาชนะไปได้ในเวลา 90 นาที 1-0 ทำให้คะแนนรวมของทั้งสองทีมเท่ากัน 1-1 จึงจำเป็นต้องต่อเวลาการแข่งขัน แต่แล้วเมื่อหมดเวลา 30 นาที ไม่มีทีมใดสามารถทำสกอร์เพิ่มได้ จึงต้องตัดสินกันด้วยการยิงจุดโทษ
ซึ่งในครั้งนี้ ซาลาห์ ได้เป็นผู้ยิงลูกโทษคนแรกของ ทีมชาติอียิปต์ โดยเขาไม่สามารถยิงเข้าประตูคู่ต่อสู้ได้สำเร็จ เนื่องจากก่อนที่เขาจะยิงลูกโทษนั้น เขาได้ถูกแฟนบอลชาวเซเนกัลเจ้าถิ่น ก่อกวนด้วยการยิงแสงเลเซอร์ไปที่ใบหน้าของเขาอย่างหนัก ทำให้เขายิงพลาดข้ามคานออกไป อีกทั้งตลอดเวลาการแข่งขัน แฟนบอลเจ้าถิ่นก็ได้ยิงแสงเลเซอร์ใส่เขา เพื่อรบกวนสมาธิของ ซาลาห์ อยู่ตลอดเวลาอีกด้วย ซึ่ง นักเตะทัพมัมมี่ 3 จาก 4 คนก็ยิงพลาดเช่นเดียวกันกับ ซาลาห์ โดยเมื่อถึงคิวของผู้ยิงคนที่ 5 ของ ทัพสิงโตเตรังก้า นั่นคือ ซาดิโอ มาเน่ เขาสามารถยิงเข้าประตูไปได้อย่างสวยงาม ส่งผลให้ ทีมชาติเซเนกัล เข้ารอบไปแข่งขันในรอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 ที่ กาตาร์ ต่อไป
โดยเมื่อจบเกมการแข่งขัน นักเตะทัพมัมมี่ ก็ออกอาการเศร้าซึมกันอย่างหนัก โดยเฉพาะ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กองหน้ากัปตันทีมคนดังวัย 29 ปี โดยมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอในห้องแต่งตัวของพวกเขาออกมา เป็นคลิปที่ ซาลาห์ ได้พูดคุยกับนักเตะเพื่อนร่วมชาติ ซึ่งเจ้าตัวดูมีสภาพที่บอบช้ำทางจิตใจอย่างหนัก และพูดเป็นนัยถึงอนาคตของเขากับการลงแข่งขันเป็นตัวแทนทีมชาติ โดย Filgoal สื่อจากประเทศอียิปต์ ได้เปิดเผยคำพูดของ ซาลาห์ จากในคลิป โดยเขาพูดว่า
“ ผมได้บอกพวกคุณไปแล้วก่อนเกมนัดที่ 2 จะเริ่มว่า ผมภูมิใจอย่างที่สุดที่ได้ออกไปร่วมแข่งขันกับพวกคุณ และพวกคุณทุกคนเป็นนักเตะที่ทุ่มเท และดีที่สุดที่ผมเคยได้ร่วมเล่นด้วย
แม้ผมจะเคยผ่านการเล่นกับนักเตะ ทีมชาติอียิปต์ มาหลายต่อหลายรุ่น อย่าง วาอิล คอมอา , โมฮาเหม็ด อบูตริก้า แล้วก็มาในรุ่นของ อับดุลลาห์ อัล ซาอีด และรุ่นอื่นๆอีก แต่ผมอยากบอกกับพวกคุณว่า ผมมีความสุขอย่างมากที่ได้เล่นกับนักเตะในรุ่นปัจจุบันนี้ที่สุด
ผมภูมิใจจริงๆที่ได้ลงสนามร่วมกับพวกคุณ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันก็เกินกว่าที่เราจะควบคุมมันได้ เพราะ มันคือการยิงลูกโทษ แม้ในครั้งนี้จะเป็นครั้งที่ 2 ก็ตาม ผมจะไม่พูดถึงมันมากนักหรอกนะ แต่ผมอยากให้พวกคุณทราบว่า ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ลงสนาม ได้ร่วมเล่นไปพร้อมกับพวกคุณทุกคน ไม่ว่าหลังจากนี้ ผมจะอยู่กับพวกคุณเช่นนี้หรือไม่ก็ตาม ”
ซึ่งทันทีที่ ซาลาห์ พูดเช่นนี้ อัชราฟ ซอบฮี รัฐมนตรีกีฬาของอียิปต์ ก็ได้พูดสวนขึ้นมาทันทีว่า “ นายจะต้องอยู่กับเราแบบนี้นั่นแหละ ” ซึ่งจากคำพูดในคลิปของ ซาลาห์ ทำให้หลายฝ่ายตีความว่า เขาอาจจะถอนตัวออกจากการเล่นในระดับทีมชาติก็เป็นได้ ซึ่งทางด้านของสำนักข่าว On time Sports ของอียิปต์ ได้สัมภาษณ์ไปยัง ซาดิโอ มาเน่ หัวหอกแห่งทัพ สิงโตเตรังก้า เพื่อนร่วมทีมลิเวอร์พูลของ ซาลาห์ ว่าได้พูดคุยอะไรกับ ซาลาห์ บ้างหรือไม่ โดย มาเน่ ก็ได้เผยความรู้สึกหลังเกมว่า
“ แม้ว่าผมสามารถเอาชนะมาได้ 2 ครั้ง และเขาก็แพ้ถึง 2 ครั้ง ผมว่า ตัวผมก็แค่โชคดีมากกว่าเขา ที่ได้รับชัยชนะมา มันก็แค่นั้นเอง แต่ผมก็ภูมิใจอย่างมากกับเกมในระดับทีมชาติทั้งสองรายการ เราได้แชมป์ แอฟริกา คัพ ออฟ เนชันส์ มาแล้ว และในตอนนี้ เราก็สามารถเข้ารอบสุดท้ายได้ไปเล่นฟุตบอลโลกอีก ทุกอย่างมันเป็นฝันของผมจริงๆ สำหรับเกมที่เพิ่งจบไป ผมเชื่อว่ามันเป็นเกมที่ยากเกมหนึ่งของทั้งสองทีมเลย แต่แฟนบอลของพวกเรา ก็เป็นส่วนที่ผลักดันให้เราได้รับชัยชนะมากๆ แม้เป็นเกมที่ไม่ง่ายเอาเสียเลย แต่พวกเขาทำให้เราไม่หยุดต่อสู้ และเราก็ฝ่าฟันจนได้ประตูและชัยชนะมา ”

ส่วนทางด้านของ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค กองหลัง ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ เพื่อนร่วม ทัพหงส์แดง ของ ซาลาห์ อีกคนก็ได้ให้สัมภาษณ์ และส่งกำลังใจถึงเพื่อนรักร่วมสโมสรจากรั้วแอนฟิลด์ของเขาว่า
“ เขาแพ้ในเกมนี้เหรอ? แน่นอนที่สุด ผมรู้สึกเสียใจกับ ซาลาห์ และ ทีมชาติอียิปต์ ด้วยจริงๆ แต่คุณก็รู้ว่าในบางครั้ง เหตุการณ์แบบนี้ มันเป็นเรื่องธรรมดาของการแข่งขันฟุตบอล มันเกิดได้บ่อยๆนั่นแหละ
และผมก็มั่นใจในตัวเพื่อนของผมคนนี้ว่า เขาจะต้องเปลี่ยนเอาความผิดหวัง ให้กลายเป็นแรงผลักดันไปสู่ความสำเร็จอย่างแน่นอน ในฤดูกาลที่เหลือนี้ พวกเรายังมีเกมให้เล่นอีกหลายรายการเลยทีเดียว มันมีหลายอย่างที่เขาจะต้องทำ และประสบความสำเร็จได้อีกมากมายเลยทีเดียว
ส่วน มาเน่ ผมต้องขออวยพรให้กับเขาเลย ขอให้เขาโชคดี และถ้าหากว่าบังเอิญ ในรอบสุดท้ายของฟุตบอลโลก เขาได้อยู่ในกลุ่มเดียวกันกับผม เขาอาจจะต้องอาศัยความโชคดีแบบนี้เข้าช่วยด้วยเหมือนกันแหละ “

โดย หัวหอกแม่ทัพ เดอะ ฟาโรห์ ลงเล่นในระดับทีมชาติมาแล้วกว่า 84 เกม และทำประตูไปถึง 47 ประตู และเขาได้ลงเล่นในศึก ฟุตบอลโลก ไปเมื่อปี 2018 จนในปีนี้ได้ตกรอบไป และหากเขาลงเล่นในนาม ทีมชาติอียิปต์ อีกครั้งในศึก ฟุตบอลโลก อีก 4 ปีข้างหน้า หรือในปี 2026 เขาจะมีอายุ 34 ปีในตอนนั้น และถึงแม้ว่าเขาอาจจะไม่ลงเล่นให้กับทีมชาติอีกต่อไปแล้วก็ตาม แต่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก็ได้พิสูจน์ให้แฟนบอลทั่วโลกเห็นแล้วว่า เขา คือ นักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกคนหนึ่งเลยทีเดียว