ผลกระทบจากการที่รัฐบาลประเทศรัสเซีย ได้ส่งกองทัพบุกรุกรานประเทศยูเครน ทำให้วงการกีฬาโลกทุกแขนงสั่นสะเทือน พร้อมใจร่วมกันประณามและคว่ำบาตร รัสเซีย ไม่เว้นแม้แต่ในวงการมอเตอร์สปอร์ต อย่างการแข่งขันฟอร์มูลาวัน เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ (F1) ศึกรถยนต์ความเร็วสูงก็เช่นเดียว ล่าสุด สหพันธ์รถยนต์ระหว่างประเทศ (FIA) ได้ตัดสินใจยกเลิกสัญญาการจัดการแข่งขัน รัสเซียน กรังด์ปรีซ์ ที่ประเทศรัสเซียไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ในตอนแรกทาง FIA ได้ทำการยกเลิกการแข่งขัน F1 ในฤดูกาลนี้ ที่จะจัดขึ้นในช่วงเดือนกันยายนไปเพียงเท่านั้น ซึ่งจากการยกเลิกสัญญานี้จะเท่ากับว่า จะไม่มีการแข่งขัน F1 ที่สนามอีโกร่า ไดรฟ์ ในเมืองเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก สนามใหม่ที่เตรียมจะย้ายไปแข่งขันกันในปี 2023 อีกต่อไปด้วย
โดยในอดีตที่ผ่านมาจนถึงฤดูกาล 2022 ในปัจจุบันที่โดนยกเลิกไปนี้ การแข่งขัน F1 ถูกจัดขึ้นที่สนามโซชิ ออโต้โดม ในเมืองโซชิ ซึ่งที่ผ่านมานั้น ผู้ที่อยู่เบื้องหลังที่ทำให้ ประเทศรัสเซีย ได้สิทธิ์ในการจัดการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตรายการใหญ่ที่สุดของโลก นั่นก็คือ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียคนปัจจุบัน นั่นเอง โดยเขาสามารถคว้าสิทธิ์นี้มาในปี 2014 และมีสัญญาระยะยาวกับการแข่งขัน F1 เรื่อยมาจนมาถึงในปัจจุบัน แต่ก็ได้ถูกยกเลิกสัญญาไปในที่สุด เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ที่ผ่านมา
ซึ่งเมื่อย้อนเหตุการณ์กลับไปก่อนที่การแข่งขัน รัสเซียน กรังด์ปรีซ์ ที่ รัสเซีย จะถูกยกเลิกสัญญาไปนั้น ทางสื่อชื่อดังอย่าง สกายสปอร์ต เยอรมันนี ได้ทำการรายงานความเคลื่อนไหวของบุคคลต่างๆที่ทำการคว่ำบาตรรัสเซีย เริ่มต้นโดย เซบาสเตียน เวทเทล เจ้าของแชมป์โลก ฟอร์มูลาวัน 4 สมัย ชาวเยอรมัน จากทีมแอสตัน มาร์ติน ได้เป็นผู้ที่ออกมาเรียกร้องรายแรกว่า ให้ยกเลิกการจัดการแข่งขัน รัสเซียน กรังด์ปรีซ์ ในฤดูกาลนี้ออกไป ซึ่งถ้าหาก FIA ไม่ยกเลิกการแข่งขันในครั้งนี้ เขาได้ออกมากล่าวอย่างชัดเจนแล้วว่า เขาจะไม่เข้าร่วมการแข่งขันอย่างแน่นอน เนื่องจากเขามองว่าการกระทำของ รัสเซีย ต่อ ยูเครน ในครั้งนี้ เป็นการกระทำที่น่าตกใจมาก และ เป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายสุดๆ โดย เวทเทล ได้กล่าวว่า
“ ผมมองว่าผมไม่ควรไปที่นั่น และผมจะไม่ไปอย่างเด็ดขาด มันเป็นสิ่งที่ผิดอย่างมาก หากผมจะไปเข้าร่วมการแข่งขันในประเทศนั้น และผมรู้สึกเศร้าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เหลือเกิน ที่ผู้คนบริสุทธิ์ต้องมาถูกเข่นฆ่าจากเหตุผลโง่ๆของคนบางคนเช่นนี้ ”
โดยเมื่อทาง เวทเทล ได้ออกมากล่าวเรียกร้องต่อเหตุการณ์การบุกรุกรานของ รัสเซีย เช่นนี้แล้วนั้น สกายสปอร์ต เยอรมันนี ได้รายงานว่าต่อมาไม่นาน แม็กซ์ แวร์สเตปเพน แชมป์โลกฟอร์มูล่าวันสมัยล่าสุด ชาวเนเธอร์แลนด์จากทีม เรดบูลล์ เรซซิ่ง ก็เห็นพ้องเช่นเดียวกันกับ เวทเทล และได้ออกมาให้สัมภาษณ์สั้นๆว่า
“ เมื่อประเทศนั้นๆ อยู่ในสภาวะสงคราม เราก็ไม่ควรที่จะให้มีการแข่งขันเกิดขึ้นที่ประเทศนั้น ”
นอกจากนี้ สกายสปอร์ต เยอรมันนี ได้รายงานเพิ่มเติมว่า ทางทีม ฮาส ทัมแข่งขันฟอร์มูล่าวันสัญชาติอเมริกัน ได้ตัดสินใจทำการถอดธงชาติรัสเซีย รวมไปถึงถอดสติ๊กเกอร์ข้างรถของผู้สนับสนุนหลักอย่าง Uralkali กลุ่มทุนจากประเทศรัสเซีย ออกไปจนหมด โดยกลุ่มทุนที่ว่านี้มี ดิมิทรี มาเซปิน เศรษฐีชาวรัสเซีย ผู้ซึ่งเป็นบิดาแท้ๆของ นิกิตา มาเซปิน นักแข่งฟอร์มูล่าวันชาวรัสเซีย ที่ลงแข่งขันเป็นนักแข่งตัวหลักให้กับทีม ฮาส เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อีกด้วย ซึ่งทาง กุนเธอร์ สไตเนอร์ หัวหน้าทีมสูงสุดของ ฮาส ได้ออกมายอมรับว่า ยังไม่ทราบอนาคตของ มาเซปิน ในการแข่งขันในรายการ รัสเซียน กรังด์ปรีซ์ ฤดูกาล 2022 ในช่วงเดือนกันยายนนี้ เนื่องด้วยสถานการณ์การคว่ำบาตรต่อรัสเซียอย่างรุนแรงเช่นนี้ ซึ่งถ้าหาก มาเซปิน ไม่สามารถลงทำการแข่งขันได้ เปียโตร ฟิตติพิลดี้ จะเป็นนักแข่งที่ถูกเลือกมาแข่งขันคู่กันกับ มิค ชูมัคเกอร์ แทนเขา
ซึ่งในท้ายที่สุด ทางด้าน FIA ก็ได้ทำการตัดสินใจในการยกเลิกการแข่งขัน F1 ในฤดูกาลนี้ รวมไปถึงยกเลิกสัญญาการจัดการแข่งขัน รัสเซียน กรังด์ปรีซ์ ออกไปเลยอีกด้วย ซึ่งหมายความว่าจะทำให้ไม่มีการแข่งขันรายการระดับโลกนี้ใน รัสเซีย อีกต่อไปในอนาคต และเป็นที่คาดการณ์ว่า จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปตลอดหาก ปูติน ยังคงมีอำนาจในรัฐบาลรัสเซีย โดยทาง FIA ในฐานะผู้จัดการแข่งขัน F1 ได้ออกแถลงการณ์ว่า
“ จากผลการประชุมร่วมกันของ สภามอเตอร์สปอร์ตโลก (World Motor Sport Council) ทางเราขอยืนยันว่า ได้ยกเลิกสัญญากับทางผู้จัดการแข่งขัน รัสเซียน กรังด์ปรีซ์ อย่างเป็นทางการแล้ว นั่นหมายความว่า จะไม่มีการแข่งขันในประเทศรัสเซียอีกต่อไปในอนาคต ”
ซึ่งในการตัดสินใจในครั้งนี้ของทาง FIA พวกเขาได้เปิดเผยว่า ต้องยึดตามหลักการของทาง คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ที่ได้ระบุไว้ว่า ผู้ที่มีหน้าที่จัดการแข่งขันกีฬา จะต้องไม่อนุญาตให้นักกีฬาจากประเทศรัสเซีย และ ประเทศเบลารุส ประเทศพันธมิตร รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ของจากทั้งสองประเทศ ได้เข้าร่วมการแข่งขันในระดับสากล เพื่อเป็นการปกป้องเกียรติยศของวงการกีฬาโลก และเพื่อความปลอดภัยของนักกีฬาจากชาติอื่นๆด้วย
ซึ่งต่อมา ดานิล คัฟยาต อดีตนักแข่งขันฟอร์มูล่าวันชาวรัสเซีย ได้ออกมาเรียกร้องให้ สหพันธ์กีฬา และ สมาคมกีฬาต่างๆ คิดทบทวนเรื่องการไม่อนุญาตให้นักกีฬา และ ทีมกีฬาจากประเทศรัสเซียได้ลงทำการแข่งขันในรายการต่างๆ โดยเขามองว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการไร้ซึ่งความยุติธรรม และขัดแย้งต่อหลักการของการแข่งขันกีฬาอีกด้วย โดย คัฟยาต ผู้ซึ่งเคยลงทำการแข่งขัน F1 มาแล้วกว่า 110 สนาม ได้ชี้ให้องค์กรต่างๆมองในมุมกลับกันว่า นักกีฬา และ ทีมกีฬาจากประเทศรัสเซีย ไม่ได้รับความยุติธรรม โดยเขากล่าวว่า
“ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สถานการณ์ที่ยูเครนจะได้รับข้อสรุปอย่างสันติโดยเร็ว ทุกฝ่ายที่มีความเกี่ยวข้องจะสามารถหาทางออกร่วมกันได้ ด้วยการนั่งเจรจาพูดคุยกันอย่างสันติ และเคารพซึ่งกันและกัน และเราทุกคนจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกันอีกครั้ง การที่ผมต้องมาทนเห็นประเทศที่เปรียบเสมือนบ้านพี่ เมืองน้องต้องมาทะเลาะ ขัดแย้งกันเช่นนี้ มันทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก ผมไม่ต้องการให้สงครามมากำหนดอนาคตของมนุษยชาติบนโลกนี้ ผมอยากเห็นลูกสาวของผม รวมถึงเด็กๆทุกคนได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขบนโลกที่สวยงามใบนี้ต่อไป ”
“ ผมจึงอยากเรียกร้องให้สหพันธ์กีฬาทุกๆแห่งในโลก รวมถึง IOC ได้เล็งเห็นว่า กีฬานั้นควรจะแยกออกจากการเมือง และการห้ามไม่ให้นักกีฬา หรือ ทีมกีฬาจากรัสเซีย ได้เข้าร่วมการแข่งขันเช่นนี้นั้น มันไม่มีความยุติธรรมเอาเสียเลย และมันขัดแย้งอย่างมากต่อหลักการการแข่งขันกีฬา นั่นคือ ความสงบสุข และ การรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของทุกคน หากไม่ใช่ กีฬา แล้ว จะมีสิ่งไหนที่ช่วยเป็นกาวใจให้ทุกๆชาติ สามารถรวมกันเป็นหนึ่งเดียวได้ในช่วงเวลาเช่นนี้ ”