
ฟิลิป วอลเทอร์ โฟเด้น (Phil Walter Foden) หรือ ฟิล โฟเด้น ที่แฟนบอลรู้จัก นักเตะดาวรุ่งสัญชาติอังกฤษ วัย 21 ปี แข้งลูกหม้อตำแหน่งกองกลางของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผู้เปรียบเสมือนดาวรุ่งดวงใหม่ที่เป็นขุมกำลังพา ทัพเรือใบสีฟ้า ทะยานไปสู่จุดสูงสุด แทนที่แข้งตัวเก๋ารุ่นใหญ่ที่ใกล้จะปลดประจำการในอนาคต
ฟิล โฟเด้น เขาเกิดเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2000 ที่เมืองสตอร์กพอร์ต มณฑลแกรตเตอร์แมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ครอบครัวของเขามีฐานะปานกลาง มีน้องสาว 1 คน และเขามีความชื่นชอบในกีฬาฟุตบอลมาตั้งแต่ยังเด็ก โดย โฟเด้น และครอบครัวของเขาเป็นแฟนบอลตัวยงของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยเขามักจะสวมใส่ชุดโปรดซึ่งเป็นชุดแข่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แบบเต็มยศและไปยังสนาม เอทิฮัด สเตเดี้ยม กับพ่อและแม่เพื่อเชียร์ทีมโปรดของเขาเป็นประจำ และนี่คือ จุดเริ่มต้นของเส้นทางสายลูกหนังของ ฟิล โฟเด้น
ฟิล โฟเด้น กับการเข้าสู่ทีมเยาวชนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ฟิล โฟเด้น เด็กหนุ่มผู้เป็นแฟนบอลตัวยงของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้เริ่มเข้าสู่วงการลูกหนังเมื่อปี 2009 ในขณะที่เขาอายุได้เพียง 8 ขวบ โดยเขาได้ทุนจากอคาเดมีของ สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพื่อเข้าเรียนและเป็นเด็กฝึกของทีมในชุดเยาวชน โดยเขาได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวของเขาอย่างมาก และเขาก็ฉายแววดาวรุ่งในทีมชุดเยาวชน จนในเดือน ธันวาคม ปี 2016 เปป กวาร์ดิโอล่า กุนซือแห่ง ทัพเรือใบสีฟ้า ได้คัดเลือกให้ โฟเด้น มีชื่อติดในทีมเพื่อลงทำการแข่งขันในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในรอบแบ่งกลุ่ม แม้ในครั้งนั้นเขาจะได้ทำหน้าที่เป็นตัวสำรองก็ตาม แต่ก็เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาได้ก้าวอีกขั้นเพื่อไปสู่ทีมชุดใหญ่ โดย โฟเด้น ได้เล่นให้กับทีมเยาวชนของสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นระยะเวลา 8 ปี ตั้งแต่ปี 2009-2017 โดยเขาเป็นนักเตะคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ก้าวมาจากเด็กฝึกในทีมเยาวชน และสามารถติดโผของทีมชุดใหญ่ได้
ฟิล โฟเด้น กับการเข้าสู่สโมสรอาชีพของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ในเดือนกรกฎาคม ปี 2017 ฟิล โฟเด้น ได้รับการคัดเลือกให้ติดในทีมชุด Pre Season ของการแข่งขัน International Champions Cup (ICC) 2017 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นการแข่งขันกระชับมิตร แม้ในครั้งนั้น ทัพเรือใบสีฟ้า ที่ โฟเด้น ลงทำการแข่งขันให้ จะพ่ายแพ้ต่อ ทัพปีศาจแดง สโมสรเพื่อนร่วมเมืองก็ตาม แต่ฟอร์มการเล่นของเขา ก็ได้สร้างความประทับใจให้กับ เปป กวาร์ดิโอล่า กุนซือของทีมอย่างมาก โดย เปป ถึงขั้นให้สัมภาษณ์ชื่นชม โฟเด้น ไว้ว่า
“ แฟนบอลทุกคนโชคดีมากๆ ที่ได้ชมการแข่งขันในนัดนี้ ซึ่งเป็นนัดที่ ฟิล โฟเด้น ได้ลงทำการแข่งขันกับทีมชุดใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นครั้งแรก แม้เขาจะอายุเพียงแค่ 17 ปี แต่ฟอร์มการเล่นของเขาพัฒนาไปเป็นอย่างมาก ซึ่งผมไม่ได้เห็นอะไรแบบนี้มานานมากๆแล้ว เขาเป็นนักเตะจากชุดเยาวชนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และเขาคือของขวัญที่ล้ำค่าอย่างมากสำหรับทีมของเรา และแน่นอนว่า เขาจะได้ร่วมฝึกซ้อมกับเราต่อไป และในฤดูกาลหน้าที่จะมาถึงนี้ เขาอาจจะได้ร่วมทีมชุดใหญ่กับเราก็เป็นได้ เพราะความสามารถของเขาที่มี ช่างเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆเลยทีเดียว ”

หลังจากที่เขาได้โชว์ศักยภาพของเขาออกไป เขาก็ได้มีชื่อติดในทีมชุดใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และได้ลงทำการแข่งขันให้กับทีมอยู่เสมอ โดยเขาได้ลงแข่งขันในนัดแรกให้กับ ทัพเรือใบสีฟ้า อย่างเป็นทางการ เมื่อ เดือนพฤศจิกายน ปี 2017 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในนัดที่แข่งขันกับ สโมสรไฟเยอโนร์ด จากลีกในเนเธอร์แลนด์ แต่ในนัดแรกนี้ โฟเด้น ได้ลงแข่งขันเป็นตัวสำรองแทน ยาย่า ตูเร ในนาทีที่ 75 โดยการแข่งขันในนัดนี้ ทำให้เขากลายเป็นนักฟุตบอลอังกฤษที่อายุน้อย เป็นลำดับที่ 4 ที่ได้ลงทำการแข่งขันในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อีกด้วย ซึ่งในขณะนั้น เขามีอายุได้ 17 ปี 177 วัน
และหลังจากนั้นไม่นาน ต้นเดือนธันวาคม ปี 2017 เขาได้ลงแข่งขันในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อีกครั้งกับ สโมสรชัคตาร์ โดเนตสก์ สโมสรจากลีกรัสเซีย โดยในครั้งนี้ เขาได้ลงเล่นเป็นนักเตะตัวจริงของสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จึงทำให้เขาสร้างสถิติใหม่ขึ้นมาเป็น นักฟุตบอลอังกฤษที่อายุน้อยที่สุด ที่ลงเล่นเป็นตัวจริงในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งในขณะนั้น โฟเด้น อายุได้ 17 ปี 192 วัน และถัดไปในช่วงกลางเดือนธันวาคม ปี 2017 โฟเด้น ได้ลงแข่งขันในศึก พรีเมียร์ลีก เป็นครั้งแรก กับสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในนัดที่พบกับ สโมสรทอตนัม ฮอตสเปอร์ ด้วยการลงเล่นเป็นตัวสำรองแทน อินคาย กุนโดกัน
ฟิล โฟเด้น ถือเป็นดาวรุ่งที่อนาคตไกลอย่างมาก โดยเขาถูกวางให้เป็นนักเตะที่จะลงมาเล่นแทนที่ตำแหน่งของ ดาบิด ซิลบา อดีตกองกลางตัวเก่งของทีม โดย โฟเด้น มีทักษะและฟอร์มการเล่นที่คล้ายๆ ซิลบา เป็นมิดฟิลด์สารพัดประโยชน์ที่สามารถลงเล่นได้หลายตำแหน่ง และมีทักษะการจ่ายบอลที่แม่นยำและคล่องแคล่วว่องไว และฉลาดสุดๆ ถึงขั้นที่ เปป เคยกล่าวเอาไว้ว่า
“ โฟเด้น คือนักเตะคนเดียวของทีม ที่จะไม่ถูกขายออกไปในตลาดนักเตะ แม้จะมีทีมใดยื่นข้อเสนอมาเป็นจำนวนเงิน 500 ล้านยูโร ก็ตาม ผมไม่สนใจ เพราะจิตวิญญาณของ ฟิล โฟเด้น คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผมจะไม่มองหานักเตะมาเล่นในตำแหน่งนี้อีกแล้ว แม้ ดาบิด ซิลบา จะอำลาสโมสรแห่งนี้ไป และแน่นอนที่สุด เราต่างก็รู้ดีว่าใครจะก้าวขึ้นมาทำหน้าที่แทนเขา ”

ฟิล โฟเด้น กับการเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษ
ฟิล โฟเด้น มีชื่อติดทีมชาติอังกฤษในชุดเยาวชนครั้งแรก ในปี 2015 โดยเขาได้ลงเล่นให้กับทีมเยาวชนทีมชาติอังกฤษ รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ลงทำการแข่งขันไป 8 นัด ทำประตูไปได้ 2 ประตู
จากนั้นในปี 2016 เขาได้เลื่อนขั้นไปแข่งขันในทีมเยาวชนทีมชาติอังกฤษ รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ลงทำการแข่งขันไป 23 นัด ทำประตูไปได้ 11 ประตู
ปี 2017 เขาได้เลื่อนขั้นไปแข่งขันในทีมเยาวชนทีมชาติอังกฤษ รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ลงทำการแข่งขันไป 2 นัด ทำประตูไปได้ 1 ประตู โดยในปีนี้ เขาเป็นส่วนหนึ่งในการพาทีมคว้าแชมป์ ฟุตบอลโลก 2017 ในรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี และได้รับรางวัล ผู้เล่นทรงคุณค่าประจำทัวร์นาเมนต์ และ รางวัลจากสื่อชื่อดังของเกาะอังกฤษอย่าง BBC โดยได้รับรางวัล ดาวรุ่งแห่งปีจาก BBC อีกด้วย

ปี 2018 เขาได้เลื่อนขั้นไปแข่งขันในทีมเยาวชนทีมชาติอังกฤษ รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ลงทำการแข่งขันไป 3 นัด ทำประตูไปได้ 1 ประตู และได้เลื่อนขั้นไปแข่งขันในทีมเยาวชนทีมชาติอังกฤษ รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ลงทำการแข่งขันไป 15 นัด ทำประตูไปได้ 4 ประตู
และในปี 2020 เขาก็ได้รับเลือกให้มีชื่อติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่เป็นครั้งแรก และในปัจจุบัน ปี 2022 ฟิล โฟเด้น ได้รับคัดเลือกจาก แกเร็ท เซาท์เกต ให้มีรายชื่อติดเป็น 1 ใน 25 นักเตะ ที่ได้ลงทำการแข่งขันในเกมอุ่นเครื่องกับ ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ และ ทีมชาติไอวอรี่โคสต์ โดย ทีมชาติอังกฤษ สามารถเข้ารอบสุดท้ายไปแข่งขันในศึก ฟุตบอลโลก 2022 ในเดือนพฤศจิกายน ที่ประเทศกาตาร์ ได้อีกด้วย ซึ่งก็ต้องลุ้นกันว่า ฟิล โฟเด้น จะพาทีมชาติอังกฤษประสบความสำเร็จให้กับศึก ฟุตบอลโลก 2022 นี้ ได้หรือไม่
ผลงาน และ เกียรติประวัติของ ฟิล โฟเด้น
สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้
• แชมป์ พรีเมียร์ลีก 2 สมัย ประจำฤดูกาล 2017-18 และ ฤดูกาล 2018-19
• แชมป์ เอฟเอ คัพ ฤดูกาล 2018-19
• แชมป์ อีเอฟแอล คัพ (คาราบาว คัพ ในปัจจุบัน) 2 สมัย ประจำฤดูกาล 2017-18 และ ฤดูกาล 2018-19
• แชมป์ เอฟเอ คอมมิวนิตี้ชิลด์ ปี 2018 และ ปี 2019

ทีมชาติอังกฤษ
• แชมป์ ฟุตบอลโลก 2017 รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี (U-17)
• รองชนะเลิศ ยูฟ่า ยูโรเปี้ยน แชมเปี้ยนชิพ รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี (U-17)
รางวัลส่วนตัว
• รางวัล ทีมยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ รายการ ยูฟ่า ยูโรเปี้ยน แชมเปี้ยนชิพ 2017 รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี (U-17)
• รางวัลรองเท้าทองคำ จากการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2017 รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี (U-17)
• รางวัลดาวรุ่งแห่งปี จาก BBC ประจำปี 2017
